
รู้ไหมครับ❓ ไม่ว่าจะฤดูไหน เด็ก ๆ ก็ป่วยได้ โดยเฉพาะ 6 โรคนี้ ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
เนื่องมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและภูมิต้านทานในตัวเด็ก ๆ ที่ยังมีน้อย ทำให้ป่วยง่าย บางรายเป็นเพราะติดมาจากคนอื่น หรือเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนด้วย คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดนะครับเพราะ 6 โรคนี้ อาจอันตรายถึงชีวิตได้เลย จะมีโรคอะไรบ้าง เราตามไปดูกันเลย
1. โรคไข้หวัดใหญ่ อาจตายได้ถ้ารักษาไม่ทัน
อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ในช่วงแรกนั้น หลาย ๆ ท่านอาจจะแยกไม่ออกว่าลูกน้อยเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไข้หวัดธรรมดากันแน่ รู้ตัวอีกที อาการก็หนักแล้ว จนต้องแอ็ดมิทเข้าโรงพยาบาล โชคร้ายอาจเจอโรคแทรกซ้อน จนถึงแก่ชีวิตได้ ไม่อยากเสี่ยงให้ลูกเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ง่าย ๆ ครับ เพียงแค่ฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อนเลย จะช่วยลดความเสี่ยงการป่วยได้ถึง 89% ลดความรุนแรงของโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ และไม่ต้องเสียเวลาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยครับ
2. โรคปอดบวม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน จนรักษาไม่หาย
โรคนี้เป็นภาวะที่ปอดเกิดการอักเสบครับซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้ออื่น ๆ หรือสารเคมี โรคนี้ คือ ติดได้ผ่านน้ำลาย เสมหะ ในเวลาไอ จาม ซึ่งลูกน้อยอาจติดโรคนี้ได้ง่าย อาการเริ่มต้น จะเริ่มจากการมีน้ำมูกไหลจาม คัดจมูกก่อน หรือเริ่มมีไข้หนาวสั่น จากนั้นจะมีอาการหายใจหอบเหนื่อยร่วมด้วยครับ หากบุตรหลานของใครมีอาการเหล่านี้อยู่ อย่าชะล่าใจ รีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน และพยายามให้อยู่ห่างจากคนที่ป่วยไว้ครับ สามารถป้อง กันได้โดยฉีดวัคซีน IPD ป้องกันโรคปอดบวมเพื่อลดโอกาสการเกิดโรคและป้องกันการเกิดอาการแทรกซ้อนครับถึงแม้โรคนี้จะไม่ได้พบมากเท่าโรคอื่น ๆ
แต่ถ้าหากเป็นแล้วเกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นมาอาจอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
3. โรคไข้สุกใส อาจเกิดโรคแทรกซ้อนถึงชีวิต
ปกติโรคไข้สุกใสนี้ ถ้าหากไม่มีอาการแทรกซ้อนจะสามารถหายได้เอง และหายได้ไวครับ โดยอาการจะเริ่มจากมีไข้ต่ำ ๆ ปวดเมื่อยเนื้อตัวและอาจมีตุ่มพองนูน ตุ่มนูนใสขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการแกะเกาและให้เด็กดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอครับ แต่ถ้าไม่อยากให้บุตรหลานเสี่ยงเป็นโรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วย ฉีดวัคซีนป้องกันไข้สุกใสเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือหากได้รับเชื้อแล้วก็จะช่วยลดความรุนแรงของเชื้อได้ครับ การฉีดวัคซีน แนะนำให้ฉีด 2 ครั้งครับ โดยเข็มแรกจะฉีดในเด็กช่วงอายุ 12 เดือน – 15 เดือน และเข้มที่ 2 จะฉีดตอนช่วงอายุ 4 – 6 ปีครับ
4. โรคมือ เท้า ปาก อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนสมองอักเสบ
สำหรับโรคนี้ จะพบมากในเด็กเล็ก ๆ เลยครับ โดยอาการจะคล้ายไข้หวัด คือ มีไข้ มีตุ่มใสหรือร้อนในในปากหรือมีอาการเจ็บ แสบ ผื่นแดง บริเวณฝ่ามือ
นิ้วมือ ฝ่าเท้า เป็นเวลา 5 – 7 วัน ปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันต้องรักษากันตามอาการครับ ผู้ปกครองจะต้องหมั่นสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิดว่ามีอาการเบื้องต้นหรือไม่ ซึมลง เบื่ออาหารหรือไม่ หากเข้าข่ายมีอาการเสี่ยงต้องรีบพาบุตรหลายเข้าพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อรักษาให้ได้ไวที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเด็กเองครับ
5. โรคหัด อาจเสียชีวิตได้ถ้าไม่ฉีดวัคซีนป้องกัน
โรคหัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสมักจะระบาดในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว
สามารถติดต่อกันได้ผ่านการไอ จาม หรือหายใจรดกัน อาการที่สังเกตได้ชัดคือ ตอนแรกจะมีไข้ ไอ จาม ตาแดง และหลังจากนั้น 4 วัน จะมีผื่นแดงขึ้นตามมาซึ่งโรคนี้อาจเกิดอาการแทรกซ้อนได้ถึงขั้น ตาบอด ไข้สมองอักเสบ ติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรงและถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยผู้ที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตคือ เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี และสตรีที่ตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไว้ครับ ซึ่งสามารถฉีดได้ตั้งแต่ก่อนได้รับเชื้อและหลังได้รับเชื้อไม่เกิน 3 วัน ในเด็กสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 – 12 เดือน ส่วนคุณแม่ที่มีแผนจะตั้งครรภ์หรือตั้งครรภ์แล้วยังไม่ได้รับวัคซีนป้องหันโรคหัด แนะนำให้ปรึกษากับคุณหมอครับ
6. โรคท้องเสียในเด็ก อันตรายถึงตาย
เมื่อเป็นแล้ว ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ทำได้โดยการรักษาตามอาการไปครับเพราะฉะนั้น แนะนำให้ผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่ให้วัคซีนโรต้าป้องกันไว้ จะช่วยได้ดีที่สุด โดยวัคซีนโรต้านี้ เป็นวัคซีนแบบหยอดสามารถหยอดได้ตั้งแต่ในเด็ก
อายุ 6 สัปดาห์ ถึงก่อน 4 เดือน หน้าหนาวนี้ สังเกตอาการบุตรหลานท่าไว้ให้ดี
หากมีอาการป่วย เข้าข่ายน่าสงสัยเป็นโรคร้ายทั้ง 6 นี้ ให้รีบพามาพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คอาการให้ไวที่สุดเลยนะครับ
>> inbox สอบถาม นัดคิวปรึกษา กับแอดมิน
หรือเข้ามาที่โรงพยาบาลรวมแพทย์ พิษณุโลก ได้เลยครับ